วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

กระบวนการบำบัดขยะมูลฝอยแบบเชิงกล ชีวภาพ MBT

1. CDM คือกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism : CDM) เป็นกลไกที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโต เพื่อช่วยให้ประเทศอุตสาหกรรมที่มีพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกสามารถบรรลุพันธกรณีได้ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศกำลังพัฒนา

2. CPR คือ กระบวนการคัดแยกขยะมูลฝอยที่มีความเสถียรเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นเม็ดพลาสติก

3. Compost คือ ปุ๋ยชีวภาพที่เหมาะสมกับพืช

4. RDF คือ วัสดุที่นำไปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนซึ่งสามารถให้ความร้อนสูงในการผลิตกระแสไฟฟ้า

อื่น ๆ ที่จะได้จากกระบวนการบำบัดอีกก็คือ การแปรรูปพลาสติกให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง , เป็นส่วนผสมในการผลิตปูนซิเมนต์






วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

แนวทางใหม่ในการแก้ปัญหาขยะ

การบำบัดขยะมูลฝอยแบบเชิงกลชีวภาพ MBT




เป็นการใช้เทคโนโลยีในการจัดการขยะมูลฝอยแบบผสมผสาน ควบคู่กับการเปลี่ยนรูปขยะ และเพิ่มอัตราการย่อยสลายทางชีวภาพ เพิ่มความเสถียรของขยะ ลดขนาดหรือปริมาณขยะ


ขั้นตอนและวิธีดำเนินการ

1. การปรับสภาพพื้นที่เพื่อรองรับขยะ












2. ทำการคัดแยกวัสดุที่มีขนาดใหญ่และวัสดุที่ยังใช้ได้ออก








3. ใช้รถโม่ผสมขยะให้เข้ากัน






4. นำขยะที่ผ่านกระบวนการไปก่อเป็นกองหมักและปกคลุมด้วยวัสดุกรองกลิ่นตามธรรมชาติ ประมาณ 9 เดือน










5. นำขยะที่ผานกระบวนการ MBT ไปร่อนเพื่อแยกขนาด





วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขยะโดยทั่ว ๆ ไป มี 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

ขยะโดยทั่ว ๆ ไป มี 3 ประเภทหลัก ๆ คือ


1. ขยะที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ (Reuse และ Recycle) เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว กระป๋องเครื่องดื่ม และกระดาษลัง เป็นต้น การนำมาใช้ประโยชน์อาจจะอยู่ในรูปของการนำมาใช้ใหม่ (Reuse) เช่น ถุงพลาสติก เก็บไว้ใช้ห่อหิ้วสิ่งของต่าง ๆ ขวดสุรา ขวดเบียร์ และขวดเครื่องดื่มก็นำมาใช้บรรจุใหม่ได้ นอกจากนั้นการใช้ประโยชน์ในรูปของการเปลี่ยนรูป (Recycle) เช่น ขวดพลาสติก กระป๋องเครื่องดื่ม สามารถนำไปหลอมใหม่แล้วนำมาเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุได้อีก เป็นต้น


2. ขยะธรรมชาติ (Compost) ขยะชนิดนี้ส่วนมากแล้วเกิดจากสิ่งของจากธรรมชาติ เช่น เปลือกผลไม้ เศษผัก เศษใบไม้ และเศษอาหารต่าง ๆ ขี้เลื่อย แกลบ เป็นต้น ขยะชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ฉะนั้นจึงทำปุ๋ยหมักจากขยะประเภทนี้ได้ดี


3. ขยะที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ขยะเหล่านี้นอกจากใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วยังมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยสลาย เช่น พลาสติกจะใช้เวลามากกว่า 200 ปีในการย่อยสลาย โฟมอาจจะไม่มีการย่อยสลายเลย ดังนั้นจึงเป็นปัญหาในการกำจัด ไม่ว่าจะเป็นการฝังกลบ หรือเผา เพราะจะต้องใช้พื้นที่มาก และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้คนหากมีการกำจัดที่ไม่ถูกวิธี

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เราจะลดปริมาณขยะได้อย่างไร?


1. การลดปริมาณของขยะพลาสติก โดยการสิ่งของที่ซื้อมาใส่ในถุงเดียวกัน หรือถ้าจะให้ดีควรจะมีถุงผ้า หรือตะกร้าติดมือไปด้วยสำหรับใช้ในการจับจ่ายซื้อของ วิธีการนี้จะทำให้เราลดปริมาณขยะพลาสติกลงได้เป็นจำนวนมาก


2. การพยายามใช้ขยะให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ขวดน้ำสามารถใช้บรรจุน้ำดื่มไว้ดื่มกินได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้ขวดน้ำพลาสติกทำระบบน้ำหยดรดน้ำต้นไม้ ใช้กระป๋องเครื่องดื่มทำสิ่งของชำร่วย ใช้บัตรโทรศัพท์ทำเป็นของที่ระลึก เก็บถุงพลาสติกที่สภาพดีเอาไว้ใช้จนกว่าจะขาดและใช้การไม่ได้ นำเศษกระดาษมาทำเป็นวัสดุคลุมดิน ใช้เศษลังทำของเล่นให้เด็กๆ ใช้กระดาษพิมพ์หรือเขียนทั้งสองหน้า หรือวิธีการอื่น ๆ ที่สร้างสรรค์ และสามารถลดปริมาณขยะลงได้


3. การทำปุ๋ยหมักจากขยะ เช่น ทำปุ๋ยหมักจากเศษขยะธรรมชาติ เช่นเศษอาหาร เศษผัก เศษเปลือกผลไม้ เศษใบไม้ เศษหญ้าแห้ง และอินทรีย์วัตถุอื่น ๆ นำมาหมักในภาชนะ ในกอง ในกะบะ หรือทำเป็นหลุมก็ได้ ซึ่งการทำก็ไม่ยุ่งยาก ปุ๋ยหมักมีประโยชน์ต่อการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้พืชผักที่ปลูกงอกงามดี และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนในการซื้อปุ๋ยและผัก


4. การแยกขยะดีไว้ต่างหากเพื่อนำไปขาย โดยเฉพาะขยะที่ใช้ใหม่ได้ และขยะที่นำไปใช้เปลี่ยนรูปได้ (Reuse และ Recycle) เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋อง เหล็ก กระดาษ ลังกระดาษ กล่องนม กล่องน้ำผลไม้ และอลูมิเนียม เป็นต้น ขยะประเภทนี้ถ้าทิ้งไปเฉย ๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์ แต่กลับจะเพิ่มปัญหาด้านการกำจัด และเป็นอันตรายต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการแยกขยะเหล่านี้ไว้ต่างหากจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และควรกระทำในทุกชุมชน ในปัจจุบันมีร้านรับซื้อของเก่าจำนวนมากและส่วนมากจะรับซื้อของเก่าแทบทุกชนิดในราคาที่แตกต่างกัน


5. การนำขยะไปกำจัดอย่างถูกวิธี ขยะที่จะนำไปกำจัดไม่ใช่ว่าทำได้กับขยะทุกชนิด ดังนั้นทางที่ดีควรจะเป็นขยะที่เหลือจากการทำปุ๋ยหมัก ขยะที่เหลือจากการนำไปใช้ใหม่ และขยะที่เหลือจากการแยกไว้ขายแล้วเท่านั้น ที่จะนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี



วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำไม่กำจัดขยะได้ไม่หมด

1. ขาดความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
2. ขาดทรัพยากร

- บุคลากร

- งบประมาณ

- พื้นที่

3. ขาดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

4. ขาดกฎหมายและระเบียบแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจนและเพียงพอ

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปัญหาจากขยะมูลฝอย

ปัญหาจากขยะมูลฝอย



1. เกิดมลภาวะ (Pollution) - ขยะมูลฝอยที่ไม่ได้กำจัดให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล หรือปล่อยทิ้งไว้ ทำให้ชุมชนเสื่อมเสียภาวะที่ดีไป (Pollution) เช่น เกิดน้ำเสีย, ดินถูกปนเปื้อน และ อากาศเป็นพิษ เป็นต้น


2. เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สะสมของเชื้อโรคและแมลง (Breeding Places) - ขยะมูลฝอยที่ไม่ได้กำจัดให้หมดสิ้นไปหรือถูกปล่อยปละละเลย หรือไม่กำจัดให้ถูกต้อง จะเป็นแหล่งอาหาร, ที่อยู่อาศัยของหนู, สัตว์แทะต่าง ๆ หรือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงซึ่งจะเป็นพาหะนำโรคติดต่อต่าง ๆ มายังมนุษย์ได้


3. การเสี่ยงต่อสุขภาพ (Health Risk) - ชุมชนที่ไม่ได้กำจัดขยะมูลฝอยให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล จะทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น โรคของระบบทางเดินอาหาร, โรคของระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น


4. สูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ (Economic Loss) - การกำจัดขยะที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง หรือทิ้งขยะมูลฝอยลงในแม่น้ำ, ลำคลอง หรือแหล่งน้ำสาธารณะ จะเกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำทำให้น้ำเน่าเสีย ทำให้ปลาตาย หรือสัตว์น้ำอื่น ๆ ตาย นอกจากนี้ชุมชนยังขาดน้ำเพื่อการบริโภคและอุปโภค จำเป็นหาน้ำสะอาดใช้ทำให้สิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ หรือไม่สามารถจับสัตว์น้ำได้เนื่องจากจำนวนสัตว์น้ำลดลง ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ทำให้สูญเสียรายได้ทางด้านเศรษฐกิจ



5. เป็นเหตุแห่งความรำคาญ (Public Nuisances) - ขยะมูลฝอยที่ไม่ได้ทำการกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ หรือปล่อยทิ้งไว้ในที่สาธารณะ เมื่อปริมาณของขยะมูลฝอยทับถมมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จะเกิดการเน่าเปื่อยซึ่งจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนตามมา



6. ชุมชนขาดความสง่างาม (Esthetics) - ชุมชนที่ไม่มีการกำจัดขยะมูลฝอยให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล เช่นปล่อยขยะมูลฝอยทิ้งไว้ข้างถนน, ในสวนสาธารณะหรือข้างตึกแถว นานวันเข้าจะทำให้เกิดทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม, ไม่น่าดู, ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประเภทของขยะ

ขยะโดยทั่ว ๆ ไป มี 3 ประเภทหลัก ๆ คือ


1. ขยะที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ (Reuse และ Recycle) เช่น ขวดน้ำพลาสติก ขวดแก้ว กระป๋องเครื่องดื่ม และกระดาษลัง เป็นต้น การนำมาใช้ประโยชน์อาจจะอยู่ในรูปของการนำมาใช้ใหม่ (Reuse) เช่น ถุงพลาสติก เก็บไว้ใช้ห่อหิ้วสิ่งของต่าง ๆ ขวดสุรา ขวดเบียร์ และขวดเครื่องดื่มก็นำมาใช้บรรจุใหม่ได้ นอกจากนั้นการใช้ประโยชน์ในรูปของการเปลี่ยนรูป (Recycle) เช่น ขวดพลาสติก กระป๋องเครื่องดื่ม สามารถนำไปหลอมใหม่แล้วนำมาเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุได้อีก เป็นต้น


2. ขยะธรรมชาติ (Compost) ขยะชนิดนี้ส่วนมากแล้วเกิดจากสิ่งของจากธรรมชาติ เช่น เปลือกผลไม้ เศษผัก เศษใบไม้ และเศษอาหารต่าง ๆ ขี้เลื่อย แกลบ เป็นต้น ขยะชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ฉะนั้นจึงทำปุ๋ยหมักจากขยะประเภทนี้ได้ดี


3. ขยะที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ขยะเหล่านี้นอกจากใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วยังมีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยสลาย เช่น พลาสติกจะใช้เวลามากกว่า 200 ปีในการย่อยสลาย โฟมอาจจะไม่มีการย่อยสลายเลย ดังนั้นจึงเป็นปัญหาในการกำจัด ไม่ว่าจะเป็นการฝังกลบ หรือเผา เพราะจะต้องใช้พื้นที่มาก และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้คนหากมีการกำจัดที่ไม่ถูกวิธี

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ขยะคืออะไร

ขยะคืออะไร?
ขยะคือสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้คนไม่ต้องการ และทิ้งมันไป ขยะมีมากมายหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นของแข็ง ของเหลว ขยะที่ย่อยสลายได้และที่ย่อยสลายไม่ได้ ของที่ใช้ประโยชน์ได้และที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และขยะมีพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมถ้าหากว่ามีการจัดการกำจัดที่ไม่ถูกต้อง

ขยะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ขยะส่วนมากแล้วเกิดขึ้นมาจากผลของการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ในแต่ละวัน วันหนึ่งๆมีสิ่งของต่าง ๆ ที่เหลือใช้และถูกทิ้งในปริมาณที่มากมายจนเกิดปัญหาขยะล้นเมือง จะเห็นได้ในแทบทุกพื้นที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ทั้งในเมืองและในชนบท


ขยะโดยทั่ว ๆ ไป มี 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. ขยะที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
2. ขยะธรรมชาติ (Compost)
3. ขยะที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้